วันพฤหัสบดีที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

บทความ : “ โอกาสมีมา ก็มีวันหมด ”


“ โอกาสมีมา  ก็มีวันหมด ”
ซารีฮา   บาโฮะ
ถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้  เชื่อว่ามนุษย์ส่วนใหญ่ยังอยากที่จะย้อนเวลากลับไปทำหรือแก้ไขสิ่งต่าง ๆ ในอดีตที่เคยทำผิดพลาดมา  บางคนบ่นเสียดายโอกาสที่เข้ามา  แต่กลับไม่ได้ทำ  บางคนร้องขอโอกาสอีกสักครั้งที่จะขอย้อนเวลากลับไปทำมันให้ดีขึ้นกว่าเดิม  แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิดหรือความฝันเท่านั้น  เพราะเวลาทุกนาที  ทุกชั่วโมง  ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเรานั้น  มันจะเดินผ่านช่วงชีวิตของเราเพียงครั้งเดียวเท่านั้น  ไม่มีใครที่จะสามารถยื้อเวลาหรือรื้อฟื้นเวลาที่ล่วงไปแล้วให้กลับคืนมาได้
เช่นเดียวกันกับฉันที่ทุกวันนี้ยังนึกเสียดายโอกาส และมักจะตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอว่า       ทำไมนะ ?  คนเราถึงจะคิดได้เมื่อสายเกินไป   ทำไมนะ ?  คนเราถึงได้ปล่อยให้ตัวเองเผชิญหน้ากับความสูญ เสียซะก่อน  ถึงจะหันมามองข้างหลัง       ทำไมนะ ? ทำไม ?  คำถามนี้ยังหวนอยู่ในความคิดของฉันอยู่เสมอ  นับตั้งวันที่ฉันและครอบครัวต้องสูญเสียผู้เป็นที่รักที่สุดในชีวิต  เป็นผู้ที่มอบชีวิตให้ฉัน  เป็นผู้ที่คอยดูแลฉัน  และเป็นผู้ที่ทำให้ฉันเป็นฉันได้ในวันนี้  ท่านผู้นี้ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน  คือแม่ของฉันเอง
ที่เล่ามาข้างต้นและจะเล่าต่อไปนี้นั้น  เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 5  ปีแล้ว  เวลานั้นฉันอายุประมาณ  15 ปี
วันที่ฉันและครอบครัวต้องประสบกับความสูญเสีย  กับการจากไปของผู้เป็นแม่ด้วยอาการป่วยของโรคไตวายเรื้อรัง  ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่รวดเร็วมาก  ทั้งฉันและครอบครัวยังตั้งตัวไม่ทันที่จะยอมรับกับการสูญเสียในครั้งนั้น   และคงไม่มีใครที่อยากจะให้ความสูญเสียแบบนี้เกิดขึ้นกับครอบครัวของคุณกับคนที่คุณรัก  แต่เราก็ไม่อาจที่จะฝืนโชคชะตาชีวิตให้เราต้องพบเจอสิ่งที่ไม่ปรารถนาเช่นนี้   แต่เมื่อสิ่งนี้มันเกิดขึ้นแล้วสิ่งเดียวที่ทำได้  คือ  การยอมรับความจริงที่เกิดขึ้นถึงแม้มันจะทุกข์ทรมานแสนสาหัสเพียงใดก็ตาม 
ตลอดระยะเวลา  15  ปี  ที่ฉันได้ใช้ชีวิตอยู่กับแม่  มันชั่งเป็นช่วงเวลาที่สั้นเหลือเกินสำหรับลูกคนนี้  ที่จะตอบแทนบุญคุณของผู้เป็นแม่  ฉันยังไม่เคยบอกรักแม่เลย  ฉันยังไม่เคยได้หอมแก้มนวล ๆ ของแม่เลยและฉันยังมีอะไรอีกมากมายที่จะทำให้แม่  แต่มันคงไม่มีแล้วซินะโอกาสสำหรับลูกคนนี้ที่จะทำอย่างที่ได้เคยคิดได้ฝันว่าสักวันหนึ่งคงได้บอกรักแม่  ได้หอมแก้มนวล ๆ ของแม่ และทำอะไรอีกมากมายให้แม่  เพราะ  ช่วงเวลาที่ฉันมีอยู่นั้นฉันมัวแต่คิดว่า  เออเดี๋ยวค่อยทำดีกว่า  ยังมีเวลาอีกเยอะ  ผัดวันประกันพรุ่งอยู่เรื่อย  จนวันหนึ่งโอกาสนั้นได้จากฉันไป  ถึงแม้ฉันจะวอนขอมันสักแค่ไหนมันก็ไม่กลับมาเป็นอย่างเช่นเดิมอีกแล้ว  แต่อย่างน้อยฉันก็ยังดีใจนะที่โอกาสมันก็มาเยือนฉันอีกครั้ง  ถึงแม้มันจะไม่สมบูรณ์แบบก็ตาม  โอกาสที่ฉันได้รับนั้นก็คือ  ฉันได้กอดแม่  ถึงแม้จะไม่ได้รับการกอดกลับ  ฉันได้หอมแก้มนวล ๆ ของแม่  และได้บอกรักแม่  แต่โอกาสนั้นมันมาเมื่อทุกอย่างสายซะแล้ว  ก็ในเมื่อฉันได้แค่กอดแม่  หอมแก้มแม่  และบอกรักแม่ข้างหูเบา ๆ  ว่า  “ ลูกคนนี้รักแม่นะ ”  กับแค่ร่างที่ไร้วิญญาณเท่านั้น  
วันนี้คุณได้ย้อนดูตัวเองแล้วหรือยังว่า  คนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ ความสุขของเรานั้น  เราทำอะไรให้ท่านบ้างแล้วหรือยัง ?  เพราะจากเรื่องเล่าข้างต้นก็ถือเป็นอีกหนึ่งความรู้สึกเสียดายโอกาสที่เกิดขึ้นกับผู้เขียนเอง  ซึ่งทุกวันนี้เราก็ได้เห็นความรักมากมายหลายรูปแบบ  เราได้เห็นคนหลายคน ๆหมกมุ่นกับสิ่งที่จับต้องไม่ได้ในนามของ  “ ความรัก ”  เราได้เห็นหลายคนเสียน้ำตา  เสียใจ  เสียผู้เสียคน  เพียงเพราะ    คนอื่นไม่รักตอบ ” และไม่เข้าใจว่าคนใกล้ตัวแบบพ่อแม่  ที่รักเรามาตั้งแต่เราลืมตาดูโลก  และรักเราแบบไม่มีเงื่อนไขนั้น  เราทำอะไรตอบแทนแล้วบ้าง ?
เมื่อโอกาสยังมีก็จงรีบทำซะ ก่อนที่มันจะสายเกินไป  เพราะ  โลกใบนี้ไม่มีอะไรแน่นอน  ทุกสิ่งที่ไม่คาดคิดนั้นอาจจะเกิดขึ้นได้  คิดอะไรอยู่  อยากจะทำอะไรหรือบอกอะไรให้ใครรู้  ก็จงรีบทำแล้วคุณก็ไม่ต้องมาบ่นเสียดายโอกาสหรือโหยหาโอกาสเพื่อย้อนเวลากลับไปแก้ไขสิ่งที่ผิดพลาดในอดีต







ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น